วันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ทำไม ชีวจิต ถึงไม่แนะนำให้รับประทานเนื้อสัตว์



ทำไม ชีวจิต ถึงไม่แนะนำให้รับประทานเนื้อสัตว์

“พวกเนื้อ พวกไก่ พวกหมู สัตว์ที่เป็นอาหารเดี๋ยวนี้ เรามีวิธีเลี้ยงแบบ Mass Production ที่ต้องมีอาหารสัตว์ ต้องมีการให้ยา ต้องมีการให้ฮอร์โมน ให้ยาบำรุงทุกอย่าง แถมการให้นั้นเป็นการให้แบบ Overdose ซึ่งจะตกค้างอยู่ในตัวของสัตว์ เมื่อเราเอามากินกัน จึงอาจเป็นอันตรายจนถึงขั้นร้ายแรงที่สุดได้ คือ มะเร็ง”
“อย่างไก่ตอน ตั้งแต่ไก่เริ่มเกิดมาก็ให้พวกวัคซีน พอโตขึ้นมาก็ให้ยาป้องกันโรค พอโตขึ้นมาอีกหน่อยก็ให้ฮอร์โมนเข้าไปเพื่อให้มันโตเร็ว เขาฝังไว้ที่คอเป็นเม็ดเบ้อเร่อ พอฆ่าไก่ตาย สารต่างๆก็ยังสะสมอยู่ในคอไก่นั่นเอง และสิ่งที่ตกค้างอยู่ในสัตว์นี้ ได้มีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์มาแล้วว่าเป็นสารก่อมะเร็ง ด้วย”
“เมื่อพิจารณาในเรื่องเนื้อสัตว์แล้ว อาหารทะเลมีประโยชน์กว่าเนื้อสัตว์อื่นๆ โดยเฉพาะเนื้อปลา นอกจากจะเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพดีแล้ว ปลาทะเลยังมีสารและแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์อีกมากมาย เช่น ไอโอดีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส และเหล็ก”
แต่ใครหลายคนอาจสงสัยต่อว่า เมื่ออาหารทะเลมีประโยชน์ ทำไมจึงแนะนำให้รับประทานเพียงอาทิตย์ละหนึ่งครั้งเท่านั้น ที่แนะนำเช่นนี้ เนื่องจาก การกินปลา หรืออาหารทะเลอื่นๆ เพียงต้องการให้ร่างกายได้รับแอมิโนแอซิดบางตัวมาจากโปรตีนให้ครบถ้วนตามความต้องการของร่างกายเท่านั้น ไม่ใช่กินเพื่อความเอร็ดอร่อยแต่อย่างใด หากแต่เป็นการกินในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้สุขภาพของคุณดีขึ้นนั่นเอง
สำหรับเนื้อปลาที่แนะนำ ถ้าเป็นเนื้อปลาสีขาวจะดีมาก เพราะปลาชนิดนี้จะมีไขมันน้อย รับรองไม่ทิ้งไขมันสะสมไว้ในร่างกายให้รำคาญใจ











สูตรอาหารชีวจิต


ข้าวผัดกุ้ง-กะปิ
เมนูนี้หอมน่ากิน จนคนสวยอยากให้กลิ่นหอมโชยออกจากหน้ากระดาษได้ กะปิดีเป็นเสน่ห์ของอาหารไทย ข้าวผัดกุ้ง-กะปิ จึงเป็นอีกเมนูหนึ่งที่อยากให้ลองทำกินกัน เพราะนอกจากจะได้อิ่มอร่อยกับรสชาติแบบไทยๆ เต็มคำแล้ว ยังได้ประโยชน์จากสมุนไพรหลากหลายชนิด แต่ระวังอย่าปรุงเพลินจนรสจัดเกินไป กินร้อนๆ อร่อยอย่าบอกใครจ้า
ส่วนผสม
ข้าวกล้องสุก 2 ถ้วย
กุ้งสดปอกเปลือก ผ่าหลัง ดึงเส้นดำออก 10 ตัว
กะปิอย่างดี 2 ช้อนโต๊ะ
มะม่วงดิบซอย 1 ถ้วย
พริกขี้หนู 5 เม็ด
กระเทียม 4-5 กลีบ
หอมเล็กซอย 4-7 หัว
พริกไทยอ่อน 2-3 ช่อ
ซีอ๊วขาว 1 ช้อนชา
น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนชา
น้ำมันดอกทานตะวัน 2-3 ช้อนโต๊ะ
น้ำสะอาด 1/4 ถ้วย
มะนาว 1 ผล
พริกชี้ฟ้า สีแดง เขียว เหลือง หั่นเป็นแว่น อย่างละ 2 เม็ด
ต้นหอมและผักชีซอย (ตามชอบ)
วิธีทำ
โขลกพริกขี้หนู กะปิ กระเทียม หยาบๆ
ผัดส่วนผสมกะปิที่โขลกแล้วกับน้ำมันพอหอม เติมน้ำ
ใส่กุ้งลงไป ผัดต่อจนน้ำงวด
ใส่ข้าวกล้องสุกลงผัด ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำตาลทรายแดง ผัดจนส่วนผสมเข้ากันดี ชิมรส
ใส่พริกชี้ฟ้าหั่น พริกไทยอ่อน มะม่วงซอย หอมเล็กซอย ผัดให้เข้ากัน ดับไฟ โรยต้นหอมและผักชี เสิร์ฟพร้อมมะนาว และผักเคียงตามชอบ
Tips
เลือกกะปิเนื้อละเอียด มีกลิ่นหอม จะทำให้ข้าวผัดอร่อยยิ่งขึ้น
ผัดส่วนผสมทุกอย่างให้แห้ง จะทำให้ข้าวผัดกินอร่อย

วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

อาหาร...ยาวิเศษเพิ่มพลังสมอง



“ สมอง ” ... กองบัญชาการของร่างกาย “ สมอง ” เป็นอวัยวะที่มีโครงสร้างซับซ้อน ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของร่างกายในแทบทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหว ระบบประสาทสัมผัสต่างๆ เช่น การได้ยิน การมองเห็น การรับรู้กลิ่นและรส เป็นต้น นอกจากนี้สมองยังมีหน้าที่สำคัญในการควบคุมอารมณ์ ความรู้สึก การเรียนรู้ และความจำ สมองประกอบด้วยเซลล์ประสาท (neuron) จำนวนมากกว่าแสนล้านเซลล์ที่มีแขนงประสาท (neuronal processes) งอกออกมา ประสานกันเป็นร่างแหเพื่อใช้ในการติดต่อและส่งสัญญาณประสาท โดยมีอัตราความเร็วของการส่งสัญญาณตั้งแต่ 0.5-120 เมตร/วินาที เชื่อว่าเซลล์ประสาทจะมีจำนวนคงที่เมื่อแรกคลอด แต่การงอกของแขนงประสาทจะเพิ่มขึ้นได้หลังจากมีการกระตุ้นจากการเรียนรู้และได้รับสารอาหารที่เหมาะสม ทำให้สามารถส่งสัญญาณประสาทได้เร็วขึ้น และมีการติดต่อประสานงานที่ต่อเนื่องครอบคลุม สมองจึงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันจะเป็นปัจจัยที่บ่งบอกถึงความฉลาดและสติปัญญาได้
“ สารสื่อประสาท ” ปัจจัยที่ช่วยการทำงานของสมอง เช่นเดียวกับอวัยวะอื่นๆ ของร่างกาย สมองต้องการสารอาหารเพื่อเป็นพลังงานและใช้ในการทำงาน การติดต่อกันระหว่างเซลล์สมองยังต้องการสารเคมีที่เรียกว่า สารสื่อประสาท (neurotransmitter) อย่างน้อย 3 ชนิด ที่จะทำให้การส่งข้อมูลของสมองเป็นไปอย่างถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ สารสื่อประสาทเหล่านี้สร้างมาจากสารอาหารต่างๆ ที่รับประทาน โดยมีวิตามินและแร่ธาตุช่วยในกระบวนการ

อาหารกับโรคสมองเสื่อม (Alzheimer's disease)ถึงแม้ว่าโรคสมองเสื่อมจะยังไม่สามารถรักษาให้หายได้ในปัจจุบัน แต่สามารถป้องกันหรือชะลอสภาวะการทำงานของสมองไม่ให้เสื่อมลงไปกว่าเดิมได้ โดยวิธีที่สามารถทำได้ง่ายๆ คือ การหลีกเลี่ยงจากมลพิษ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสมอง มีงานวิจัยมากมายพบว่าโรคสมองเสื่อมสามารถป้องกันได้ด้วยอาหารหลายชนิด เช่น ผักและผลไม้ที่มีวิตามินอี วิตามินซี ซึ่งมีอยู่มากในผักและผลไม้จำพวกมะเขือเทศ แครอท และ ผักขม ด้วยคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในอาหารเหล่านี้ ทำให้ช่วยป้องกันเซลล์สมองจากการถูกทำลายด้วยสารอนุมูลอิสระ (free radicals) นอกจากนี้แล้ว DHA ที่มีในไขมันจากปลาทะเล ก็ยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับโครงสร้างของเซลล์สมองได้
นิตยสาร - HealthToday
http://images.google.co.th/imglanding?

5 เคล็ดลับสวยใสไร้สิวแบบชีวจิต


เกร็ดสุขภาพฉบับนี้เรามี 5 เคล็ดลับดีๆ กับการรักษาสิวด้วยตัวคุณเองในแบบชีวจิตมาฝากกันค่ะ
1. ปรับอาหารการกินด้วยสูตรชีวจิต ให้ถูกต้อง ไม่ควร รับประทานแป้งข้าวและของหวานที่ทำจากน้ำตาลทรายขาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งช็อกโกแลต รวมทั้งอาหารประเภทมันๆ และของ ทอดทั้งหลาย ควร หันมารับประทานผักและผลไม้ให้มาก เพราะมีวิตามินซี วิตามินอี เบตาแคโรทีน แร่ธาตุโครเมียม และคลอโรฟิลล์ เพื่อช่วยปรับ สมดุลของฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย และเลือกรับประทานอาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสี ได้แก่ ข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีท อาหารทะเล เป็น ต้น เพื่อช่วยลดการอักเสบและการติดเชื้อของสิว นอกจากนี้ยังทำให้แผลเป็นหายเร็วขึ้น ด้วยการสร้างเนื้อเยื่อใหม่แทนเซลล์ผิวหนังที่เสีย ไป
2. ใช้ดีท็อกซ์ช่วยกำจัดท็อกซิน เพราะการเป็นสิว ย่อมแสดงว่าร่างกายในช่วงนั้นมีเจ้าท็อกซินหรือพิษเกิดขึ้นแล้ว ดังนั้น การทำดีท็อกซ์ ตามหลักชีวจิต เพื่อช่วยขจัดพิษในร่างกาย หลังจากทำดีท็อกซ์เสร็จ ก็เข้าห้องอบไอน้ำหรือ ซาวน่า เพื่อขับพิษออกทางผิวหนังได้อีกทางหนึ่ง ค่ะ
3. ดื่มน้ำสมุนไพรที่ไม่มีน้ำตาล เช่น ลูกใต้ใบ มะตูม หรืออื่นๆ ตามตำราชีวจิต เพราะน้ำจะเป็นตัวพาของเสียสิ่งสกปรกออกไป และจะได้ ประโยชน์จากสมุนไพรแต่ละชนิดอีกด้วย
4. ออกกำลังกายจนเหงื่อออก ช่วยให้เลือดหมุนเวียนดี และทำให้ต่อมไขมันเปิดและพาหัวสิวให้ละลายง่าย ไม่เกิดสิว แต่ที่สำคัญ อย่าลืม ล้างหน้าให้สะอาดทุกครั้งหลังการออกกำลังกาย
5. ทำจิตใจให้สงบ มีอารมณ์สดชื่นแจ่มใส ความผ่อนคลายนี้จะช่วยให้การไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลือง รวมทั้งทำให้เม็ดเลือดขาวใน ร่างกายทำงานได้ดีขึ้น

ความหมายของอาหารชีวจิต

ความหมาย ของอาหารชีวจิต
􀂄ชีวจิต เป็นอาหารแบบแมคโคไบโอติกส์ ทํานำมาดัดแปลงให้เข้ากับอาหารของคนไทย ปรับให้เข้ากับสภาพอาการของแต่ละคน มีการเน้นทางด้านจิตใจ ศิลธรรม ใช้ธรรมชาติในการดํารงชีวิต เน้นการสร้างสุขภาพและจิตใจก่อนให้อาหารสุขภาพ

จุดมุ่งหมายของอาหารชีวจิต
"…จุดมุ่งหมายคือต้องการให้ทุกคนมีสุขภาพกายและใจที่ดี ทีนี้การที่จะมีสุขภาพที่ดีทั้งกายและใจ เรายึดเรื่องธรรมชาติเป็นหลัก นี่คือจุดที่สองธรรมชาติเป็นหลักนั้นมีอะไรบ้าง ก็รวมไปหมดเลย ตั้งแต่ชีวิตความเป็นอยู่ของตัวเรา อาหารการกิน ความรู้สึกนึกคิด การทํางาน การปฏิบัติงานทุกอย่าง ให้มันกลมกลืนไปกับธรรมชาติ ตามแนวทางขอธรรมชาติ วิถีของธรรมชาติ"

ประโยชน์ของอาหารชีวจิต
􀂄 เนื่องจากอาหารชีวจิต เป็นอาหารที่มีไขมันต่ํา พลังงาต่ำ มีวิตามินเอ วิตามินซี สูง ใยอาหารสูง อาจมีประโยชน์ในบางภาวะ เช่น โรคอ้วน โรคไต ภาวะไขมันในเลือดสูง แต่การรับประทานเป็นเวลานาน จะมีปัญหาขาดสารอาหาร ขาดโปรตีน ขาดวิตามินแร่ธาตุ


ลักษณะของอาหารชีวจิต
􀂄อาหารชีวจิต เป็นอาหารชั้นเดียว คือเป็นอาหารที่เก็บมาจากต้นแล้วกินได้เลย เช่น พวกธัญพืชต่างๆ ที่ไม่ต้องผ่านกระบวนการปรุงอันซับซ้อน ซึ่งอาหารชั้นเดียวนี้จะให้คุณค่าสูงสุด

ตัวอย่างของอาหารชีวจิต

􀂄เช่น ข้าว ก็เป็นข้าวซ้อมมือ ข้าวแดง ข้าวกล้อง เป็นต้น ถ้าเป็นอาหารพวกเมล็ดเราไม่ได้เอาเมล็ดนั้นไปขัดขาวเป็นแป้งขาวหรือขนมปัง ซึ่งทำมาจากแป้งข้าวสาลี ข้าวสาลีนี้เขาต้องนำไปขัดขาว แล้วก็เอามาฟอกให้เป็นแป้งขาว นำมาทำเป็นขนมปัง อย่างนั้นเราไม่กินนะแต่เราจะกินขนมปังที่ทำมาจากข้าวทั้งเมล็ด ไม่ได้เอาไปขัดขาว เอามาป่นเป็นแป้งให้ละเอียด แล้วค่อยนำมาทำเป็นขนมปัง อย่างนี้เป็นต้น






ที่มา
http://nu.kku.ac.th/site/jiamjit/pdf/%CD%D2%CB%D2%C3%E0%BE%D7%E8%CD%CA%D8%A2%C0%D2%BE2.pdf
http://images.google.co.th/imglanding?
http://www.youtube.com/watch?v=eSly9VZ8pmM

วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

วันจันทร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2553

อาหารชีวจิต



อาหารชีวจิต ผู้ใหญ่และวัยรุ่นยุคนี้คุ้นเคยกับอาหารจานด่วนมากกว่าน้ำพริกผักจิ้ม ส่วนเด็กยุคใหม่เรียกได้ว่าโตมาจากนมผงและอาหารจานด่วน แถมดูอ้วนท้วนสมบูรณ์แก้มกลมแสนน่ารัก แต่อนาคตทำนายได้ยากว่าจะรอดพ้นจากภัย โรคอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดตีบ โรคมะเร็งได้แค่ไหนสำหรับจุดประสงค์หลักของชีวจิตก็คือ ความสุขสมบูรณ์ทั้งกายและใจ โดยยึดเอาวิธีปฏิบัติและความคิดในแนวธรรมชาติเป็นหลัก ในด้านร่างกายและจิตใจนั้น ชีวจิตถือว่าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ร่างกายมีผลต่อจิตใจ และจิตใจก็มีผลต่อร่างกายด้วยความสุขสมบูรณ์ (Wholeness as Perfection) การปฏิบัติตามชีวจิตจะมุ่งไปในด้านการสร้างสุขภาพกายและใจก่อน โดยการใช้ อาหารสุขภาพ การใช้เครื่องมืออุปโภคที่มาจากธรรมชาติหรือใกล้กับธรรมชาติมากที่สุด ในขณะเดียวกันชีวิตความเป็นอยู่ก็ต้องไปตามธรรมชาติ คือใช้ชีวิตที่บริสุทธิ์และเรียบง่าย ชีวิตที่เป็นไปตามธรรมชาติจะเป็นชีวิตที่มีอายุยืน แข็งแรง มีความสุขสดชื่นตลอดเวลา เมื่อมีการปฏิบัติทางกายแล้วก็ต้องมีการปฏิบัติทางใจด้วย ในด้านจิตใจเป้าหมาย ที่สำคัญที่สุดคือความสงบทางกายซึ่งอาศัยธรรมชาติเป็นปัจจัยจะทำให้เกิดความสงบทางใจ เกิดปัญญา มองเห็นสัจธรรมของโลกและชีวิต จุดสูงสุดของสัจธรรมนี้คือ ความหลุดพ้น ซึ่งแต่ละคนย่อมมีหนทางและแนวทางเป็นของตนเอง

ที่มา :
http://images.google.co.th/images
http://www.108health.com/
http://images.google.co.th/imglanding